5 วิธีทำความสะอาดไมโครเวฟแบบง่ายๆ ที่คุณเองก็ทำได้
ไมโครเวฟ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องมีประจำแทบจะทุกบ้าน เพราะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกลดระยะเวลาในการประกอบอาหาร เพียงแค่นำอาหารสำเร็จรูปเข้าไมโครเวฟไม่กี่นาทีก็สามารถนำออกมาทานได้แล้ว เรียกได้ว่าสะดวก รวดเร็ว การใช้งานไม่ซับซ้อนเลย ยิ่งหากใครไม่ชอบทำอาหารน่าจะขาดไม่ได้เลยสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้
แต่อย่าลืมว่าเมื่อเราใช้สิ่งของไปนานๆ ย่อมมีคราบมีความเลอะ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์เป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้นเราจึงควรมั่นดูแลรักษาความสะอาดสิ่งของที่เราใช้อยู่เป็นประจำเพื่อให้สามารถใช้งานได้นานและไม่เป็นที่สะสมของเชื้อโรคต่างๆ วันนี้จึงนำวิธีทำความสะอาดไมโครเวฟมาฝากกัน
1. ทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจาน
วิธีที่ง่ายที่สุดวิธีแรก คือ นำน้ำอุ่นผสมกับน้ำยาล้างจานแล้วใช้ฟองน้ำเช็ดทำความสะอาดภายในเครื่องไมโครเวฟจะช่วยขจัดคราบได้ง่ายแบบไม่ต้องออกแรงเลย นอกจากนั้นยังสามารถถอดจานรองออกมาจากตัวเครื่อง แล้วนำจานรองออกมาทำความสะอาดเหมือนล้างจานปกติเลยแต่ต้องรอให้จานรองเย็นลงก่อนนะ เมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้วผึ่งให้แห้งจากนั้นนำกลับไปใส่ในไมโครเวฟดังเดิม เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว
2. ทำความสะอาดด้วยมะนาว หรือเลม่อน
การนำมะนาวมาใช้เป็นวิธีจากธรรมชาติที่หลากๆ คนมักเลือกใช้ โดยการนำมะนาวมาบีบน้ำออกผสมกับน้ำอุ่นให้ใส่เปลือกลงไปในถ้วยด้วย จากนั้นนำไปอุ่นในไมโครเวฟประมาณ 3-5 นาที เพื่อให้ไอน้ำระเหยออกมา หลังจากนั้นน้ำฟองน้ำหรือผ้ามาเช็ดทำความสะอาดคราบภายในไมโครเวฟ วิธีนี้นอกจากจะช่วยขจัดคราบเศษอาหารต่างๆ แล้ว ยังช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย
3. ทำความสะอาดด้วยน้ำส้มสายชู
วิธีทำความสะอาดด้วยน้ำส้มสายชูคงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลายๆ คนเลือกใช้ การทำความสะอาดด้วยน้ำส้มสายชูนอกจากจะช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรกแล้ว ยังช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์จากอาหารที่เรานำเข้าไมโครเวฟด้วย การทำความสะอาดง่ายมากเพียงนำน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำในอัตราส่วนที่เท่ากันแล้วนำเข้าอุ่นในไมโครเวฟ 5-10 นาที ไอน้ำจากการอุ่นจะลอยตัวขึ้นไป หลังจากนั้นรอให้ไมโครเวฟเย็นลงก่อนจึงทำความสะอาดด้วยฟองน้ำหรือผ้าสะอาด คราบสิ่งสกปรกต่างๆ ก็จะหลุดออกได้ง่ายขึ้น
4. ทำความสะอาดด้วยเบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดามีคุณสมบัติในการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ คราบสกปรกทั้งคราบเหลือง คราบอาหาร คราบที่ฝังลึกแน่น การทำความสะอาดไมโครเวฟด้วยเบกกิ้งโซดาคือใช้เบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำ 1 ถ้วยหรือแก้ว คนให้เข้ากันแล้วทิ้งไว้สักพักหนึ่ง หลังจากนั้นนำฟองน้ำมาชุบน้ำที่ผสมไว้แล้วเช็ดทำความสะอาดได้เลย
5. ทำความสะอาดด้วยน้ำยาเช็ดกระจก
การใช้น้ำยาเช็ดกระจกทำความสะอาดเพียงนำน้ำยาเช็ดกระจก 2 ส่วนผสมกับน้ำอุ่น 1 ส่วน จากนั้นเริ่มขจัดคราบ โดยเริ่มทำความสะอาดคราบจากด้านในก่อนให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำแล้วบีบน้ำออกเช็ดคราบสกปรก เริ่มเช็ดจากด้านที่ทำความสะอาดยากๆ อย่างช่องระบายอากาศไล่ลงมาแล้วค่อยเช็ดทำความสะอาดด้านนอกตัวเครื่อง หากตรงไหนมีคราบฝังลึกแน่นออกยากให้ถูกทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วค่อยถูใหม่ หลังจากขจัดคราบหมดแล้วให้นำผ้าสะอาดมาเช็ดซ้ำให้สะอาด เน้นว่าต้องสะอาดเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน เพราะน้ำยาเช็ดกระจกมีส่วนผสมของสารเคมีหลายชนิดที่อาจเป็นอันตรายต่อเราได้ ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดเป็นอย่างมาก
วิธีการดูแลรักษาไมโครเวฟให้ใช้งานได้นานขึ้น
- ถอดปลั๊กทุกครั้งหลังไม่ได้ใช้งาน
แม้ว่าเราจะปิดสวิตซ์ไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงมีกระแสไฟฟ้าอยู่อาจทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสื่อมสภาพและหมดอายุการใช้งานเร็วกว่าปกติ และเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจรด้วย
- หมั่นเช็ดทำความสะอาดอยู่เสมอ
หลังการใช้งานไมโครเวฟทุกครั้งต้องหมั่นเช็ดทำความสะอาดคราบหรือเศษอาหาร อย่าทิ้งให้เป็นคราบจนล้างไม่ออก หรือทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง แต่หากทำความสะอาดเป็นประจำอยู่แล้วในหนึ่งเดือนควรมีการทำความสะอาดแบบละเอียดสักครั้ง แต่หากอยากทำความสะอาดจานรองควรปล่อยให้จานรองเย็นลงเสียก่อน
- ห้ามวางใกล้เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่น
การวางใกล้เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นอาจทำให้เครื่องไมโครเวฟเสื่อมสภาพเร็วขึ้นหรืออาจไปรบกวนการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่น
- คอยสังเกตการณ์ทำงานของเครื่องไมโครเวฟ
แม้ว่าไมโครเวฟจะสามารถอุ่นอาหารได้ในไม่กี่นาที แต่การสังเกตความผิดปกติหรือการเลือกใช้ภาชนะก็มีความสำคัญ หากเราเลือกใช้ภาชนะที่ไม่เหมาะสมก็อาจทำให้ภาชนะที่ใช้รับความร้อนมากเกินไปเกิดการระเบิดหรือไหม้ได้ ดังนั้นควรเลือกใช้ภาชนะที่มีการรับรองให้ใช้กับไมโครเวฟได้ อาทิ แก้ว เซรามิก พลาสติก ที่มีการรับรองให้ใช้กับไมโครเวฟได้ ภาชนะที่ไม่ควรนำเข้าไมโครเวฟ อาทิ กระดาษฟอยล์ โฟม ถุงพลาสติก เพราะอาจเกิดไฟไหม้ได้